5 Simple Statements About วันมาฆบูชา Explained

5 Simple Statements About วันมาฆบูชา Explained

Blog Article

- ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย

ก่อนจะเริ่มไปทำหน้าที่แนะนำให้ผู้อื่นเข้าถึงความสุขนั้น ก็ต้องหมั่นตรวจสอบตัวเองอยู่เสมอ

อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร

          ภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นวัด มูลนิธิ สมาคม สื่อมวลชน สนามบิน สถานีรถไฟ ฯลฯ ควรช่วยกันประชาสัมพันธ์ความสำคัญของวันมาฆบูชา อาจเป็นการพิมพ์เอกสารให้ความรู้ จัดให้มีการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา เช่น ทำบุญตักบาตร ฟังธรรม ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกอบายมุข โดยรณรงค์ให้ช่วยกันทำประโยชน์ต่อสังคมแทน อาจช่วยกันปลูกต้นไม้ ทำความสะอาดที่สาธารณะ ฯลฯ

(หันทะ มะยัง โอวาทะปาฏิโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส)

ดังนั้น วันมาฆบูชาจึงถือเป็นวันแห่งการแผ่ขยายความรักและความปรารถนาที่เราไปสู่มหาชน เพื่อสร้างสันติสุข และสันติภาพโลกให้เกิดขึ้นในที่สุด

บทสรรเสริญพระธรรมคุณ (บทสวดบาลีที่ขึ้นต้นด้วย:สวากขาโต ฯลฯ)

ทำให้ให้กายสำรวมขึ้น มีความสงบ มีจิตใจที่สะอาด มีสมาธิ เพราะขณะที่เวียนเทียนเราต้องมีความสำรวมกาย วาจา ใจ  

การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง วันมาฆบูชา พูดคำอ่อนหวาน พูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ

การละเว้นบาปทั้งปวง ทั้งกาย วาจา และใจ

แปล : การไม่ทำความชั่วทั้งปวง, การบำเพ็ญแต่ความดี, การทำจิตของตนให้ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง, พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่านิพพาน เป็นบรมธรรม, ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต,ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ การไม่กล่าวร้าย, การไม่ทำร้าย, ความสำรวมในปาฏิโมกข์, ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร, ที่นั่งนอนอันสงัด, ความเพียรในอธิจิต นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ที่เข้าใจกันโดยทั่วไป และจำกันได้มาก ก็คือ ความในคาถาแรกที่ว่า ไม่ทำชั่ว ทำแต่ความดี ทำจิตใจให้ผ่องใส

กดเลือกเวียนเทียนคนเดียว หรือ เวียนเทียนคู่

มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ

บทนมัสการนอบน้อมบูชาพระพุทธเจ้า (นะโม ฯลฯ ๓ จบ)